top of page
ค้นหา

เพิ่มความแม่นยำของ Aligner ได้อย่างไร? ― ผลกระทบของโมเดล 3D Printing ต่อประสิทธิภาพการรักษา

อัปเดตเมื่อ 1 ต.ค.

GIKO Aligner new System
3D print model for aligner

Aligner ลอยขึ้น ผู้ป่วยบ่นว่าเจ็บ หรือการรักษายืดเยื้อกว่าที่กำหนด” — ปัญหาเหล่านี้พบได้บ่อยในทางคลินิก


สาเหตุอาจมีหลายปัจจัย แต่ความแม่นยำของโมเดลก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน

โมเดลที่พิมพ์ด้วย 3D Printing อาจเกิดความคลาดเคลื่อนหรือการบิดเบี้ยวได้ ขึ้นอยู่กับวัสดุและเงื่อนไขการพิมพ์ ซึ่งส่งผลต่อการเข้ากับฟันของ Aligner

ที่ CHEERFUL LAB เราได้ให้ความสำคัญกับ “ความแม่นยำของโมเดล” และพยายามปรับปรุงขั้นตอนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความคลาดเคลื่อนและช่วยให้ได้ผลการรักษาที่ดีขึ้น


แม้ว่าจะมีระบบที่สามารถพิมพ์ Aligner ด้วย 3D Printing โดยตรง แต่ วิธีที่ได้รับความนิยมหลักในปัจจุบัน คือการพิมพ์โมเดลฟันด้วย 3D Printing แล้วนำแผ่นวัสดุมากดทับเพื่อทำ Aligner

การพิมพ์ 3D ทำได้ไม่ยาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับการควบคุมและเงื่อนไขในกระบวนการ


ปัจจัยที่อาจทำให้ขนาดหรือรูปร่างของโมเดลเปลี่ยนแปลงในขั้นตอนการพิมพ์

  1. การหดตัวหรือการขยายตัวของเรซินตามคุณสมบัติของวัสดุ

  2. ความละเอียดของเครื่องพิมพ์ที่ส่งผลต่อความแม่นยำของขนาดและรอยชั้น (Layer line)

  3. ค่าตั้งต้น (Default setting) ของเครื่องพิมพ์ 3D และซอฟต์แวร์ที่อาจมีความคลาดเคลื่อนด้านความแม่นยำ

  4. การออกแบบ Support ที่อาจทำให้เกิดการบิดเบี้ยว

  5. การล้างที่มากเกินไป หรือการล้างไม่เพียงพอ ทำให้ขนาดเปลี่ยนแปลง

  6. การถอดโมเดลออกจากแผ่นพิมพ์โดยใช้แรงมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เสียรูป

  7. การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นหลังการพิมพ์


โมเดลที่บิดเบี้ยวจากปัจจัยดังกล่าว อาจส่งผลเสียต่อการรักษา เช่น

  • โมเดลเล็กเกินไป → Aligner คับแน่น ทำให้ผู้ป่วยเจ็บมากขึ้น

  • โมเดลใหญ่เกินไป → Aligner หลวม เกิดการลอย

  • การบิดเบี้ยวเฉพาะจุด → การเคลื่อนฟันไม่เป็นไปตามแผน และ Aligner ไม่พอดี



การพัฒนาความแม่นยำของการพิมพ์ 3D ที่ CHEERFUL LAB มุ่งเน้น


1. เครื่องพิมพ์

เราไม่ได้ใช้เครื่องขนาดใหญ่ แต่เลือกใช้เครื่องพิมพ์ระบบ LCD ขนาดเล็กถึงขนาดกลางหลายเครื่องแทนจากประสบการณ์พบว่า พื้นที่การพิมพ์ที่เล็กกว่าจะให้ความแม่นยำที่สม่ำเสมอกว่าและการกระจายงานไปยังหลายเครื่องยังช่วยลดความเสี่ยงของความล่าช้าในการส่งงาน หากมีเครื่องใดเครื่องหนึ่งขัดข้อง


2. เรซิน

เราเลือกใช้ เรซินชนิด High-Precision ที่ช่วยลดรอยเส้นชั้น (Layer line) และพิมพ์ด้วยความละเอียด 50 ไมครอน (50µm)นอกจากนี้ยังเปลี่ยนฟิลเตอร์ของเรซินบ่อ (Resin vat) ค่อนข้างบ่อย เพื่อให้คงความใสและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ


GIKO Aligner New System
ความโปร่งใสที่สามารถมองทะลุไปอีกด้านได้อย่างชัดเจน ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญ

3. การจัดวางในการพิมพ์

เราออกแบบการวางโมเดลโดยคำนึงถึงการบิดเบี้ยวที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการพิมพ์ และวางตำแหน่ง Support เพื่อไม่ให้โมเดลเสียรูปเมื่อถอดออกจากแผ่นพิมพ์โดยพยายามให้ Support เป็นตัวรับแรงกดดันแทนโมเดล เพื่อลดความเสี่ยงของการบิดเบี้ยวในขั้นตอนการถอดออก


4. การล้างทำความสะอาด

หลังจากใช้แปรงขัดเพื่อลบเรซินส่วนเกินออกแล้ว เราจะทำความสะอาดด้วยเครื่องอัลตราโซนิก เพื่อให้มั่นใจว่า ไม่มีเรซินตกค้างในบริเวณซอกฟันหรือบนพื้นผิวการสบฟัน


GIKO Aligner New System
เราใช้เครื่องอัลตราโซนิกในการกำจัดเรซินที่ตกค้างบริเวณคอฟันและซอกฟัน

5. การทำให้แข็งตัวขั้นที่สอง

เราดำเนินการทำให้แข็งตัวขั้นที่สองทุกครั้ง


GIKO Aligner New System
Light Cure Machine

6. การเก็บรักษา

เราใช้แว่นขยายเพื่อตรวจสอบและปรับแต่งพื้นผิวของโมเดล รวมถึงเศษ Support ที่อาจเหลืออยู่จากนั้นจะเก็บโมเดลแต่ละเคสไว้ใน ภาชนะลดความดัน (Decompression container) จนกว่าจะถึงขั้นตอนการพิมพ์ เพื่อป้องกันการดูดซับความชื้นส่วนเกิน


GIKO Aligner New System
เราเก็บรักษาโมเดลไว้ในสภาพแวดล้อมที่สม่ำเสมอ จนกว่าจะถึงขั้นตอนการกดแผ่น (Press)

  1. วิธีการพิมพ์ที่ช่วยรักษาความแม่นยำ


ในการสร้างชิ้นงาน สามารถเลือกพิมพ์ด้วยวิธี Hollow (ทำให้ภายในกลวง) ได้ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณเรซินที่ใช้และลดต้นทุนการผลิต

อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจทำให้ชิ้นงาน ไม่สามารถคงความแม่นยำได้เต็มที่ หรือเสี่ยงต่อการบิดเบี้ยวระหว่างการกดแผ่น (Press)


ด้วยเหตุนี้ ที่ CHEERFUL LAB เราจึงเลือกใช้วิธี Solid (ภายในถูกเติมเต็มทั้งหมด) ในการพิมพ์อยู่เสมอ เพื่อรักษาความแข็งแรงและความแม่นยำของโมเดล


GIKO Aligner new System
ภาพตัดขวางของชิ้นงานแบบกลวงที่มองเห็นได้ในซอฟต์แวร์พิมพ์

GIKO Aligner New System
ซ้าย: Solid / ขวา: Hollow — สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่า Solid ให้ความแม่นยำในการพิมพ์สูงกว่า

  1. การตรวจสอบและวัดค่าจริงอย่างสม่ำเสมอ



ไม่สามารถประเมินความแม่นยำของโมเดลที่พิมพ์แล้วได้ด้วยตาเปล่า

ดังนั้น ที่ CHEERFUL LAB จึงพิมพ์ลูกบาศก์เป็นประจำและทำการวัดจริง เพื่อยืนยันความแม่นยำของชิ้นงานที่พิมพ์ออกมา

เราทำการวัด 2 ครั้ง คือทันทีหลังพิมพ์เสร็จ และอีกครั้งในวันถัดไป เพื่อให้มั่นใจว่าโมเดลไม่มีการขยายหรือหดตัวก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการกดแผ่น (Press)


GIKO Aligner New System
การวัดลูกบาศก์ด้วยความละเอียดระดับ 0.01 มม.

โมเดลที่พิมพ์จริง


คราบเส้นชั้น (Layer line) หรือความขุ่นจากเรซินที่ตกค้าง แทบไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

และที่สำคัญ แผ่นที่ถูกกด (Press) แล้วก็ไม่มีรอยเส้นชั้นเหล่านี้ปรากฏเช่นกัน


GIKO Aligner New System
ไม่มีรอยเส้นชั้น (Layer line) และไม่มีเรซินตกค้างในบริเวณซอกฟัน

จากการตรวจสอบของเรา พบว่าการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด สามารถรักษาความคลาดเคลื่อนของขนาดให้น้อยกว่า 10 ไมครอน (10µm) ได้

เราหวังว่าการดำเนินการเช่นนี้จะช่วยให้ประสิทธิภาพของการรักษาดีขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม



ประโยชน์ทางคลินิก


  • การเคลื่อนฟันต่อถาดใกล้เคียงตามแผนการรักษามากขึ้น

  • ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บและไม่สบายตัวน้อยลง ความพึงพอใจจึงสูงขึ้น

  • ความเสี่ยงในการพิมพ์ปากหรือออกแบบใหม่ลดลง


ด้วยความก้าวหน้าของการพิมพ์ 3D ความแม่นยำของโมเดลยังคงมีโอกาสพัฒนาได้ต่อไปCHEERFUL LAB จะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นรักษาคุณภาพเพื่อสนับสนุน “การรักษาด้วย Aligner ที่เสร็จสิ้นตามกำหนด”


 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page