top of page
ค้นหา

อินเฮาส์อไลเนอร์ หรือแลบอไลเนอร์ ?


เทคโนโลยีดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในการทำงานไปแล้ว


ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลในวงการทันตกรรมนั้นพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เปลี่ยนจากระบบอนาล็อกมาเป็นระบบดิจิทัลเกือบทั้งหมด


สำหรับอุปกรณ์จัดฟันแบบใส (Aligner) ก็เช่นเดียวกัน เดิมทีมีวิธีการผลิตแบบอนาล็อก โดยการแบ่งพิมพ์ปูนออกเป็นชิ้น ๆ แล้วจัดเรียงฟันใหม่ ก่อนจะทำการยึดด้วยเรซิน


แต่ปัจจุบันวิธีการดังกล่าวได้ถูกแทนที่ด้วยระบบดิจิทัลเป็นส่วนใหญ่ โดยใช้สแกนเนอร์อ่านแบบจำลอง จากนั้นจึงจัดเรียงฟันในซอฟต์แวร์ และผลิตเป็นอุปกรณ์จัดฟันโดยตรงด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ หรือพิมพ์แบบจำลองออกมาก่อนแล้วจึงใช้แผ่นพลาสติกกดขึ้นรูป ซึ่งถือเป็นกระบวนการที่ได้รับความนิยมและกลายเป็นกระแสหลักในปัจจุบัน


GIKO Aligner
GIKO Aligner

ด้วยการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการผลิต ทำให้ปัจจุบันโรงพยาบาลหรือคลินิกทันตกรรมสามารถผลิตอไลเนอร์ได้เองภายในและนำไปใช้รักษาผู้ป่วยได้ ซึ่งก่อให้เกิดข้อดีหลายประการ เช่น

  1. ลดต้นทุน

  2. เพิ่มความรวดเร็วในการรักษา

  3. ควบคุมและปรับแผนการรักษาได้อย่างอิสระ

  4. รองรับเคสเล็ก ๆ (Minimal Case) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  5. เสริมสร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ของคลินิก

อย่างไรก็ตาม การผลิตอไลเนอร์ภายในคลินิกก็มีความท้าทายเช่นกัน ได้แก่

  1. ต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นสูง

  2. จำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรและเรียนรู้เทคนิคใหม่ ๆ

  3. เพิ่มภาระด้านเวลาและแรงงาน

  4. การควบคุมคุณภาพทำได้ยาก

  5. ไม่เหมาะกับเคสที่ซับซ้อนมาก

  6. ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎหมายและข้อบังคับทางการแพทย์

ดังนั้น อินเฮาส์อไลเนอร์จึงอาจเป็นสิ่งที่ทำได้จริงในบางเงื่อนไขเท่านั้น เช่น คลินิกที่มีแผนกทันตกรรมหรือห้องแลบเทคนิคอยู่แล้ว



เมื่อพูดถึงการลงทุนเริ่มต้นที่จำเป็นสำหรับการผลิตอไลเนอร์ภายในคลินิก ปัจจุบันในประเทศไทย ขั้นต่ำที่ต้องมีคือ

  1. สแกนเนอร์ในช่องปาก (Intraoral Scanner) หรือสแกนเนอร์แลบ

  2. ซอฟต์แวร์ที่สามารถจัดเรียงฟัน (Alignment) พร้อมคอมพิวเตอร์สเปกสูง

  3. เครื่องพิมพ์สามมิติ (3D Printer)

  4. เครื่องกดพลาสติก (Pressure/Press Machine) พร้อมเครื่องอัดอากาศ (Air Compressor)

และหากต้องการผลิตโดยใช้แบบจำลองปูนเป็นฐาน ยังจำเป็นต้องมีอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น

  1. เครื่องตัดแต่งแบบจำลอง (Model Trimmer, Center Trimmer)

  2. มอเตอร์แลบและปืนลม (Lab Engine, Air Gun)

  3. ปากกาแวกซ์ (Wax Pen)

  4. เครื่องตัดอัลตราโซนิก (Ultrasonic Cutter)

  5. เครื่องฉายแสงสำหรับเรซิน (Light Curing Machine)

  6. เครื่องล้างอัลตราโซนิก (Ultrasonic Cleaner)

  7. เครื่องอบแข็งรองสำหรับชิ้นงานพิมพ์สามมิติ (3D Printing Post-Curing Machine)

ดังนั้นจึงไม่เพียงแต่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงพื้นที่สำหรับติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ รวมถึงการจัดสรรบุคลากรอีกด้วย ซึ่งทำให้การดำเนินการเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่และซับซ้อน


เครื่องกดขึ้นรูปจากญี่ปุ่น Dual-Former2 เป็นเครื่องที่มีคุณภาพสูง แต่มีราคาที่ค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่ได้รับ
เครื่องกดขึ้นรูปจากญี่ปุ่น Dual-Former2 เป็นเครื่องที่มีคุณภาพสูง แต่มีราคาที่ค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่ได้รับ



ความสมดุลระหว่างต้นทุนและคุณภาพ


การเลือกวัสดุก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการเลือกเรซินสำหรับการพิมพ์สามมิติและแผ่นอไลเนอร์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของอไลเนอร์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพิจารณาหาความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างต้นทุนและคุณภาพ


แผ่นอไลเนอร์ที่มีราคาถูกที่สุด เช่น แผ่น PetG นำเข้า มีราคาประมาณแผ่นละ หลายสิบบาท ในขณะที่แผ่นคุณภาพสูงสุดอย่างแบบ 3 ชั้น (3-Layer Sheet) มีราคามากกว่าแผ่นละ หลายร้อยบาท เมื่อเปรียบเทียบอไลเนอร์ที่ขึ้นรูปจากแผ่นราคาสูงสุดและต่ำสุดด้วยการมองด้วยตาเปล่า แทบจะแยกความแตกต่างไม่ออก แต่เมื่อใช้งานจริงในช่องปาก ความแตกต่างด้านการเคลื่อนฟันจะชัดเจนมาก


การผลิตอไลเนอร์โดยใช้วัสดุราคาถูกเพื่อควบคุมต้นทุนก็เป็นไปได้ และฟันก็สามารถเคลื่อนที่ได้ในระดับหนึ่ง แต่หากต้องการสร้างภาพลักษณ์และความแข็งแกร่งของแบรนด์คลินิกด้วยวัสดุราคาถูกเพียงอย่างเดียว ก็จำเป็นต้องสะท้อนให้เห็นถึงความโดดเด่นด้านการออกแบบหรือเทคนิคพิเศษในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ

ในทางกลับกัน หากใช้เฉพาะเครื่องจักรและวัสดุที่ดีที่สุดในการผลิตอไลเนอร์เอง ต้นทุนสุดท้ายอาจสูงกว่าการสั่งผลิตจากห้องแลบด้วยซ้ำไป ดังนั้น การเลือกใช้วัสดุสำหรับการผลิตอไลเนอร์ภายในคลินิกจึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์หลักของการทำ In-House Aligner ว่าเน้นจุดประสงค์ใดเป็นสำคัญ



ความละเอียดของเครื่องพิมพ์และคุณภาพของเรซิน ส่งผลโดยตรงต่อสภาพผิวของแบบจำลองที่พิมพ์ออกมา
ความละเอียดของเครื่องพิมพ์และคุณภาพของเรซิน ส่งผลโดยตรงต่อสภาพผิวของแบบจำลองที่พิมพ์ออกมา

การจ้างผลิตภายนอก แต่ได้ประโยชน์เหมือนทำอินเฮาส์

หากสามารถสั่งผลิตอไลเนอร์จากภายนอกที่มีราคาไม่แพง รองรับการออกแบบที่ยืดหยุ่น และใช้วัสดุคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็ว ก็อาจทำให้คลินิกได้รับประโยชน์ใกล้เคียงกับการผลิตเอง โดยไม่ต้องลงทุนเริ่มต้นจำนวนมาก


การรวมเคสผู้ป่วยทั้งหมดไว้ในแบรนด์เดียวก็มีข้อดี แต่หากเลือกใช้ห้องแลบหรือแบรนด์ที่หลากหลายตามลักษณะของแต่ละเคส อาจช่วยให้คลินิกสามารถให้การรักษาที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

หากสามารถดึงจุดแข็งของแต่ละแบรนด์และแต่ละห้องแลบมาใช้ และสร้างระบบการจัดหาอไลเนอร์ที่หลากหลายได้ ก็อาจทำให้การรักษาด้วยอไลเนอร์สามารถรองรับผู้ป่วยได้กว้างขวางยิ่งขึ้น

 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page