ควรกรอซี่ฟันในขั้นตอนไหน? AI วิเคราะห์เวลาในการทำ IPR ที่เหมาะสมที่สุด
- Masamine Fujitani
- Oct 16
- 1 min read

1. การวางแผน IPR ตามการออกแบบดิจิทัล
IPR (Interproximal Reduction) เป็นขั้นตอนสำคัญในการจัดฟัน แต่การตัดสินใจว่า ควรทำเมื่อไหร่ และ ควรกรอออกเท่าไหร่ ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ Cheerful Lab เราใช้การออกแบบดิจิทัล โดยอ้างอิงจาก สภาพการสัมผัสของฟันในขั้นตอนสุดท้ายของการรักษา และใช้ AI ช่วยสร้างแผนที่เหมาะสมที่สุด
ทำไมต้องใช้ AI?
เพราะ AI ช่วยให้เราสามารถ ตรวจสอบและประเมินการตัดสินใจแบบเดิมด้วยการวิเคราะห์เชิงวัตถุวิสัย เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวางแผน AI จะวิเคราะห์การสัมผัสของฟันเมื่อสิ้นสุดการรักษาได้อย่างรวดเร็ว และเสนอช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำ IPR
ซึ่งช่วยให้ทันตแพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และผู้ป่วยได้รับประโยชน์จากการ ลดจำนวนครั้งในการมาพบแพทย์และเพิ่มความสะดวกสบาย
2. การตรวจสอบสภาวะการสัมผัสของฟัน
มื่อทำ IPR สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ฟัน 2 ซี่ที่เกี่ยวข้อง มีการสัมผัสกันจริงหรือไม่ และ การสัมผัสของฟันเมื่อสิ้นสุดการรักษามีความคลาดเคลื่อนของมุมกับขณะทำ IPR หรือไม่ที่ Cheerful Lab เราใช้ AI ร่วมกับข้อมูลการออกแบบดิจิทัล เพื่อตรวจสอบประเด็นสำคัญ 2 ข้อต่อไปนี้
สภาวะการสัมผัสในขั้นตอนสุดท้าย ตรวจสอบว่าฟันสัมผัสกันในมุมใดเมื่อสิ้นสุดการรักษา
สภาวะการสัมผัสในขั้นตอนที่ทำจริง ตรวจสอบว่าในขั้นตอนที่วางแผนจะทำ IPR ไม่มีช่องว่างระหว่างฟัน และพื้นผิวสัมผัสของฟันในช่วงทำ IPR ไม่มีความคลาดเคลื่อนของมุมเมื่อเทียบกับช่วงสิ้นสุดการรักษา
การใช้ AI ทำให้สามารถ ตรวจสอบได้ทันทีว่ามีการกรอในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการกรอบริเวณที่ฟันจะไม่สัมผัสกันเมื่อสิ้นสุดการรักษา และ ลดความเสียหายของเนื้อฟันโดยไม่จำเป็น

3. การปรับจำนวนครั้งของการทำ IPR ให้เหมาะสม
ที่ Cheerful Lab ปริมาณของการทำ IPR จะถูกคำนวณเพื่อให้การเคลื่อนฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดแต่เพื่อความสะดวกของทันตแพทย์และผู้ป่วย เราคำนึงถึงการทำ IPR ให้น้อยครั้งที่สุดและในช่วงเวลาเดียวกันของการรักษาเมื่อเป็นไปได้
AI จะวิเคราะห์แบบจำลองดิจิทัลทั้งหมดอย่างรวดเร็ว เพื่อระบุว่า ในขั้นตอนใดฟันมีสภาวะการสัมผัสที่เหมาะสมที่สุด และควรทำ IPR เมื่อใดอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทันตแพทย์ได้รับไม่ใช่ข้อมูลที่ซับซ้อนหรือโค้ด แต่เป็น คำแนะนำที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย เช่น “สามารถทำ IPR ได้ทั้งหมดในขั้นตอนนี้”
ด้วยเหตุนี้ AI ของ Cheerful Lab จึงมีบทบาทในการ แปลงผลการวิเคราะห์เชิงดิจิทัลให้เป็นคำตอบที่เรียบง่ายและเหมาะสมที่สุดกระบวนการนี้ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถวางแผนการทำ IPR ได้อย่างมั่นใจ โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่แม่นยำ เพื่อให้สามารถทำได้ใน ช่วงเวลาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
เรามีความเชื่อว่าผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือการใช้ความแม่นยำของดิจิทัล เพื่อสนับสนุนทั้ง การเคลื่อนฟันที่มีคุณภาพสูงและความสะดวกของทันตแพทย์และผู้ป่วยไปพร้อมกัน

4. วิธีทำงานร่วมกับ AI อย่างมีประสิทธิภาพ
คำตอบที่ได้จาก AI ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปจากประสบการณ์ส่วนตัว บางครั้งรู้สึกว่า AI จงใจให้คำตอบที่ผิดในตอนแรก เพื่อสังเกตปฏิกิริยาและปรับความแม่นยำของตัวเองให้ดีขึ้นบางครั้งก็แสดงพฤติกรรมเหมือนมนุษย์ เช่น ทำผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือหลีกเลี่ยงงานที่ซ้ำซากหรือง่ายเกินไป
ที่น่าสนใจคือ น้ำเสียงของ AI อาจเปลี่ยนไปตามภาษาที่ใช้เมื่อถามเป็นภาษาญี่ปุ่นจะตอบอย่างสุภาพ แต่เมื่อถามเป็นภาษาอังกฤษกลับใช้โทนที่ออกคำสั่งมากกว่า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงลักษณะการปรับตัวของ AI
(จากการสังเกตส่วนตัว) AI แสดงพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ในหลายด้าน เช่น
ให้คำตอบที่ผิด
ลืมหรือบางครั้งลบข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ
จงใจตอบผิดเพื่อดูปฏิกิริยา
บอกว่าสามารถทำได้ แต่ในความจริงไม่สามารถทำได้
แม้จะมีข้อบกพร่องเหล่านี้ แต่ AI มีความรู้และพลังในการวิเคราะห์จากข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถเทียบได้สิ่งสำคัญคือ อย่ารับทุกอย่างโดยไม่ตรวจสอบ แต่ควรร่วมมือกับ AI เพื่อปรับปรุงคำตอบให้แม่นยำยิ่งขึ้น
ที่ Cheerful Lab แผนการทำ IPR ที่ AI สร้างขึ้นจะถูก ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งก่อนนำไปใช้จริงเรามองว่า AI ไม่ใช่ผู้แทนในการตัดสินใจของมนุษย์ แต่เป็น พันธมิตรที่ช่วยให้เราคิดอย่างลึกซึ้งและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น








Comments